วันนี้ขอหยิบยกเรื่องราวที่กำลังเป็น Talk of the Town ในแวดวงธุรกิจ นั่นก็คือ “องค์กรจะเข้มแข็ง เราต้องสร้างวัฒนธรรม” ซึ่งเคยสงสัยกันไหมว่าที่เราทำกันอยู่ทุกวันนี้มันคือของจริงหรือเป็นแค่แฟชั่นที่เดี๋ยวก็จางหายไป
บทความนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากมุมมองที่น่าสนใจของ CEO ของเรา ผศ.ดร. จตุพร สังขวรรณ ที่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความหมายและการนำวัฒนธรรมองค์กรมาใช้จริง
“วัฒนธรรมองค์กร” คำฮิตติดหู…แต่ความหมายยังคลุมเครือ
ยอมรับเลยว่าคำว่า “วัฒนธรรมองค์กร” เนี่ยมันฮอตจริงๆ ในยุคนี้ ใครๆ ก็อยากมี อยากสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแนวคิดเรื่องการสร้างให้ลูกค้า Loyalty มาแรงแซงทุกโค้ง แต่ประเด็นคือ “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ว่าเนี่ย ตกลงมันคืออะไรกันแน่? จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครให้นิยามที่ชัดเจนเป๊ะๆ สักที
เคยมีประสบการณ์ตรงจากเวทีสัมมนาแห่งหนึ่งครับ มีผู้บริหารหลายท่านมาปรึกษาว่า “อาจารย์ครับ ช่วยดูหน่อยว่า 7-8 ค่านิยมที่เราคิดมาเนี่ย เอาตัวไหนขึ้นก่อนดี? ฟังแล้วก็แอบตกใจ! หรือบางท่านก็บอกว่า “วัฒนธรรมองค์กรน่ะ ผมกำหนดไว้ในแผนกลยุทธ์เรียบร้อยแล้ว!” เอ่อ…จริงเหรอครับ? แล้วระบบการทำงานที่ซัพพอร์ตวัฒนธรรมล่ะ? งบประมาณที่ลงไปขับเคลื่อนมันมีจริงจังแค่ไหน? จึงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่หลายครั้ง ผู้บริหารยังมองข้ามความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กร มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำแบบตามมีตามเกิดไม่มีทิศทาง ไม่มีงบประมาณที่เพียงพอ
สร้างวัฒนธรรมแบบ “ก็อปปี้ & เพสต์“
อีกเรื่องที่น่าคิดคือ วิธีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรของหลายๆที่ มักจะมาจากการดูว่าวิสัยทัศน์ พันธกิจของเราคืออะไร แล้วก็สร้างวัฒนธรรมให้สอดคล้องกัน ซึ่งฟังดูดีนะครับ แต่เคยถามใจทีมงานจริงๆ ไหมว่ามันใช่ตัวตนขององค์กรเราหรือเปล่า? หรือบางทีก็หนักกว่านั้น คือ ไปดูองค์กรที่เขาว่า “เจ๋ง” แล้วก็ก็อปปี้วัฒนธรรมเขามาดื้อๆ โดยไม่ได้ปรับให้เข้ากับบริบทของตัวเอง แบบนี้มันจะไปรอดได้ยังไง? ที่สำคัญคือ เมื่อสร้างวัฒนธรรมมาแล้ว จะมีกลไกอะไรที่ผลักดันให้ทุกคนปฏิบัติได้จริง เพราะถ้าไม่มีแนวทาง ไม่มีแรงบันดาลใจ สิ่งที่พนักงานทำก็เป็นแค่ “งาน” ที่ไม่ได้สร้างผลลัพธ์ต่อองค์กรอย่างแท้จริง
วัฒนธรรมองค์กรที่แท้จริง…ต้องลงมือทำ ไม่ใช่แค่ “แปะป้าย“
การบริหารวัฒนธรรมองค์กรจึงต้องครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศ ไปจนถึงการสร้างกลไกให้เกิดพฤติกรรมใหม่ๆ ที่เราต้องการ และที่สำคัญคือ ต้องต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่สื่อสารช่วงเปิดตัวแล้วก็เงียบหายไป ซึ่งการเชื่อมโยงวัฒนธรรมองค์กรเข้ากับ Balanced Scorecard จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้สุดท้ายสิ่งที่เราลงทุนไปอาจจะสูญเปล่าเพราะพนักงานไม่เชื่อในสิ่งที่องค์กรพูด ลูกค้าก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง
สร้างวัฒนธรรมที่ “ฝังรากลึก” ไม่ใช่แค่ “ฉาบฉวย“
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนต้องมองถึงการบูรณาการเข้ากับการทำงานในทุกๆ วัน ซึ่งต้องรอบครอบตั้งแต่ การสำรวจความคาดหวังขององค์กร วิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนด้านวัฒนธรรมอย่างละเอียด ให้คะแนนพฤติกรรมที่อยู่ในใจของคนในองค์กร แล้วนำมาพัฒนากลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร ซึ่งขอยกตัวอย่างโครงการหนึ่งที่เคยทำร่วมกับองค์กรแห่งหนึ่ง ชื่อโครงการ “Culture For Value : CFV” ที่หลายองค์กรนำไปใช้ ซึ่งเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรโดยเริ่มจากการทำความเข้าใจคุณค่าขององค์กรอย่างลึกซึ้ง มีการจัดทำข้อมูลที่ชัดเจน และแสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมองค์กรสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรได้จริง มีทั้งการอบรม การจัดกิจกรรม Exhibition ที่น่าสนใจ และที่สำคัญคือมีการเผยแพร่ผลลัพธ์และวิธีการสร้างวัฒนธรรมที่จับต้องได้
ผู้นำ…หัวใจสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมที่ยั่งยืน
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ต้องเริ่มต้นจากผู้นำสูงสุดขององค์กร ต้องมีการเชื่อมโยงกับทุกกิจกรรมหลัก และต้องทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าใจและเป็นส่วนหนึ่งของผลลัพธ์ เช่น การสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานผ่านกิจกรรมต่างๆ หรือกิจกรรมที่สอกแทรกไปในงานประจำวันเพื่อให้วัฒนธรรมองค์กรเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กรอย่างแท้จริง
วัฒนธรรมองค์กรที่ยั่งยืนจะสร้างด้วย “ปาก” หรือแค่ “เอกสาร” ไม่ได้ แต่มันต้องลงไปอยู่ใน “หัวใจ” ของคนในองค์กร ให้เขาเชื่อและภูมิใจในวัฒนธรรมของตัวเอง เมื่อนั้นแหละ…เขาจะแสดงออกมาจากข้างใน และองค์กรก็จะได้รับผลลัพธ์ที่แท้จริง